“การเรียนรู้” ยังเป็นคีย์เวิร์ดจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ ทว่า สิ่งที่สร้างความปวดหัวให้ผู้ประกอบการยุคนี้ กลับไม่ใช่เรื่องของการขาดข้อมูลที่จะนำมาใช้ แต่กลับเป็นการมีข้อมูลท่วมท้นมากเกินไป จนบางครั้งทำให้ตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะเลือกใช้หรือเลือกเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลไหนก่อนดี ซึ่งสำหรับคำแนะนำในเรื่องนี้ วันนี้คอลัมน์นี้มีข้อมูลนำมาฝากให้พิจารณากัน โดยแนวทางเรื่องนี้ มาจากบทความที่ ธนโชค โลเกศกระวี นักเขียนอิสระและผู้ประกอบการออนไลน์ ได้ให้คำแนะนำไว้ผ่าน www.live-platforms.com โดยได้แนะนำว่ามี “เคล็ดลับ 4 ข้อ” ในการเลือกที่จะเรียนรู้ในยุคที่ข้อมูล Overload ดังต่อไปนี้ คือ…
1.เลือกลงทุนเรียนรู้ในเรื่องที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด เพราะในเมื่อเวลามีค่า และไม่สามารถเรียนได้ทุกอย่าง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเลือกเรียนรู้สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจเกิดผลลัพธ์มากที่สุด คำถามต่อมาที่มีคือ แล้วเรื่องใดที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุด สำหรับกรณีนี้ให้วิเคราะห์จากเป้าหมายธุรกิจ และจุดที่ธุรกิจอยากจะมุ่งเน้น เช่น จุดได้เปรียบที่ทำให้เติบโตหรือจุดที่ต้องแก้ไข นอกจากนั้นไม่ควรเลือกเรื่องที่จะเรียนรู้ในช่วงเวลาเดียวกันเกินจำนวน 2-3 เรื่อง เพราะจะทำให้ไม่สามารถจดจ่อในการเรียนรู้ได้
2.เลือกแหล่งที่มา โดยพิจารณาจาก 3 หลักเกณฑ์ นั่นคือ ความน่าเชื่อถือ นำไปใช้ได้จริง และมีความคุ้มค่า เช่น ข้อมูลที่จะอ่านหรือทำความเข้าใจนั้น ควรเป็นแหล่งข้อมูลที่พิสูจน์ได้จริง ไม่ใช่แค่มียอดติดตามในโลกโซเชียลเยอะ ๆ จากนั้นเรื่องหรือหัวข้อที่จะศึกษา ควรเป็นความรู้ที่สามารถเอามาคิด วิเคราะห์ และต่อยอด เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจได้ โดยไม่ได้เป็นแค่ทฤษฎีที่สวยหรู หรือแค่ตามเทรนด์คนอื่น ส่วนความคุ้มค่าคือ ให้พิจารณาผลลัพธ์ที่จะได้ที่จะต้องมากกว่าที่เราลงทุน
3.จดจ่อกับสิ่งที่จำเป็นต้องเรียน เพราะเมี่อได้เรียนรู้ไปสักพัก หลายๆ คนอาจเกิดการติดใจอยากไปเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่มีเวลากลับมาตกผลึกว่าเรื่องไหนที่เราจำเป็นต้องเรียนจริง ๆ หรือได้ใช้จริง ซึ่งเป็นการทำให้เสียเวลาและเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากการเรียนรู้ที่ดี ไม่ใช่การเก็บสะสมแต้ม ไม่ใช่การแข่งขันกับ เพราะการเรียนรู้ที่เห็นผล ไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่เป็นการเรียนรู้ที่ไม่สูญเปล่า หรือสามารถนำไปใช้ได้จริง หรือเกิดผลลัพธ์ที่แท้จริงมากกว่าคำพูดจาก สล็อต789
4.เลือกสิ่งที่นำไปใช้ได้จริง เพราะทุกสิ่งที่เรียนรู้จะไม่เกิดผลอะไรกับธุรกิจ ถ้าไม่ได้นำเอาไปใช้จริง ๆ ซึ่งวิธีการนำไปใช้นั้นมีหลากหลายวิธีมาก เช่น เขียนสรุปสิ่งที่ได้อ่านหรือได้ฟัง หรือเลือก 1 ข้อคิดจากคอร์สที่ไปเรียนเพื่อนำไปใช้กับธุรกิจทันที
ทั้งนี้ ทางผู้เขียนบทความนี้ยังได้แนะนำทิ้งท้ายถึงผู้ประกอบการที่สนใจจะเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจว่า ควรเลือกเรียนสิ่งที่จำเป็นก่อน เพราะหากตัดสินใจเรียนรู้หลายคอร์ส หรือหลาย ๆ เรื่องเวลาเดียวกัน อาจทำให้ไม่มีเวลาที่จะได้คิดวิเคราะห์ หรือตกผลึกเพียงพอ จึงควรจัดเวลาอย่างสมดุล ทั้งเวลาในการเรียนรู้ และเวลาที่ใช้ในการเอาไปใช้จริง นอกจากนั้น แม้จะเรียนรู้แค่ไม่กี่เรื่อง แต่อย่างไรก็ควรอัพเดทการเรียนรู้อยู่เสมอ ไม่เช่นนั้น ความรู้ที่เคยเรียนรู้ไปอาจจะล้าสมัย จนไม่สามารถใช้กับธุรกิจได้อีกต่อไป และนี่ก็เป็นแนวทาง “การเรียนรู้ยุคข้อมูล Overload” ที่เอสเอ็มอีทุก ๆ สาขา น่าจะสามารถนำไปปรับใช้ได้.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]