สงครามรัสเซียยูเครน ส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในประเทศข้างเคียง แม้จะอยู่อาศัยมายาวนาน แต่ ณ เวลานี้ ความคุกรุ่นได้แผ่ขยายจนล่าสุด ลัตเวียสั่งคุมเข้มจัดสอบวัดความเป็นพลเมืองในผู้ที่ถือครองพาสปอร์ตรัสเซียในประเทศ หากสอบไม่ผ่านทักษะสนทนาภาษาลัตเวีย จำเป็นต้องถูกบังคับให้ย้ายออกจากประเทศภายในสิ้นปีนี้
นั่นทำให้ชาวรัสเซียในลัตเวียขณะนี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง กำลังตั้งใจเรียนภาษาลัตเวียขั้นพื้นฐานอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ผ่านเกณฑ์การทดสอบภาษาที่ทางรัฐบาลลัตเวียกำหนดขึ้น
จับตาสมรภูมิบัคมุต หลังยูเครนเริ่มเปิดฉากรุกกลับรัสเซีย
สหรัฐฯ กล่าวหาแอฟริกาใต้ ส่งอาวุธ-กระสุนให้รัสเซีย
สั่งรอลงอาญาหญิงรัสเซีย 3 ปี ฐาน “ดูหมิ่นหลุมศพพ่อแม่ปูติน”
ซึ่งการทดสอบทักษะภาษานั้นแสดงถึงหลักฐานที่จะพิสูจน์ความเป็นพลเมืองของประเทศลัตเวียที่ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่มานานหลายสิบปีแล้ว ผู้ที่มาเรียนภาษาเหล่านี้นั้นต่างถือหนังสือเดินทางสีแดงของรัสเซียทั้งสิ้น และกำลังตั้งใจอย่างมากในการทบทวนภาษาลัตเวีย เพราะถ้าหากสอบไม่ผ่านบุคคลเหล่านั้นจะต้องถูกขับออกจากลัตเวีย
อย่างไรก็ตาม แต่ก่อนนั้นการพูดภาษารัสเซียในลัตเวียไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่จากสถานการณ์ความขัดแย้ง ณ ปัจจุบันระหว่างรัสเซียยูเครน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เช่น แคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วที่ลัตเวีย มีประเด็นคำถามที่เกี่ยวกับความเป็นพลเมือง และความกังวลต่อความมั่นคงของชาติได้ถูกพูดถึงด้วย
ดมิทริส ทรอฟิโมฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าในเวลานี้รัฐบาลลัตเวียต้องการวัดผลทักษะภาษาจากจำนวนคนที่ถือหนังสือเดินทางของรัสเซียซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศประมาณ 20,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้หญิง การมีหนังสือเดินทางรัสเซียไว้ในครอบครองเวลานี้ในต่างแดนอาจกลายเป็นความกังวลของพวกเขาแล้ว เช่น วาเลนตินา เซวาสต์จาโนวา อดีตข้าราชการครูสอนภาษาอังกฤษ วัย 70 ปี เธอยังทำอาชีพไกด์ทัวร์ในเมืองริกาของลัตเวียด้วยได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่าแม้ว่าเธอจะเกิดที่เบลารุส แต่เธอได้รับสถานะพลเมืองของรัสเซียเพียงเพื่อใช้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ยังอาศัยอยู่ที่นั่น ในขณะที่ตัวเธอเองอาศัยอยู่ในลัตเวียมานานกว่า 40 ปีแล้ว และในเวลานี้ก็ไม่มีที่ไปแล้ว ซึ่งทันทีที่จบคอร์สเรียนภาษาลัตเวียในโรงเรียนสอนภาษาเอกชน เธอก็พร้อมที่จะสอบวัดระดับทักษะภาษาเพื่อให้ผ่านให้ได้
วาเลนตินา เซวาสต์จาโนวา ชาวรัสเซียในลัตเวีย กล่าวว่า“ถึงจะกังวล แต่ฉันก็มีความเชื่อในลัตเวียที่เป็นประเทศประชาธิปไตย และคิดว่าที่นี่จะไม่เนรเทศคนจำนวนมากออกไป มากไปกว่านั้น ฉันเองก็ไม่มีที่ไปแล้วเพราะอยู่ที่นี่มานานกว่า 40 ปีแล้ว แม้ว่าฉันจะเกิดที่เบลารุส แต่ฉันได้สถานะพลเมืองรัสเซียมาด้วย ซึ่งก็ใช้เฉพาะแค่ตอนกลับไปดูแลพ่อแม่ที่ยังอยู่ที่นั่นเท่านั้น”
ข้อสอบวัดระดับภาษาและความเป็นพลเมือง เป็นแบบไหน?
ในขณะที่เลียน โวโรเนนโก หัวหน้าศูนย์การศึกษาแห่งชาติของลัตเวีย ผู้ซึ่งจัดทำข้อสอบระบุว่าเนื้อหาในการทดสอบนั้น ผู้ที่เข้าสอบจะต้องเข้าใจวลีและสามารถสนทนาภาษาลัตเวียเป็นประโยคง่าย ๆ ได้ เช่น การแนะนำตัวเอง เมนูอาหาร ประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
“มันเป็นประโยคสนทนาง่าย ๆ อย่างเช่น ฉันอยากจะทานมื้อค่ำ และฉันขอเลือกเป็นปลาแทนเนื้อนะคะ หรือ ฉันชื่อ เลียน ฉันอยากเดินทางไปลอนดอน เป็นต้น ซึ่งประโยคเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในข้อสอบหรอกค่ะ แต่หมายถึงว่าภาพรวมก็คือบทสนทนาในชีวิตประจำวันของเรา กิจกรรมที่เราทำมีอะไร”โวโรเนนโกกล่าว
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคนรัสเซียในลัตเวียสอบไม่ผ่าน?
ขณะที่เซวาสต์จาโนวา ตัดสินใจเรียนคอร์สภาษาลัตเวียแบบแคร่งครัดภายในระยะเวลา 3 เดือนกับเพื่อนในห้องเรียนรวมทั้งหมด 11 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยแต่ละคนต่างก็ถือหนังสือเดินทางรัสเซียหลังจากลัตเวียแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1991 จึงทำให้พวกเธอเกษียณอายุตามกฎหมายรัสเซียคือ 55 ปี และสามารถเดินทางไปรัสเซียและเบลารุสได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ลัตเวียได้ดำเนินการปิดสัญญาณช่องโทรทัศน์ภาษารัสเซีย ทำลายอนุเสาวรีย์สหภาพโซเวียตเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 และกำลังกำจัดสถานศึกษาที่เป็นภาษารัสเซียในประเทศให้สิ้นซาก ทั้งหมดเหล่านี้จึงเป็นที่มาว่าทำไมผู้คนที่อาศัยอยู่ในลัตเวียที่มีเชื้อสายรัสเซีย แม้จะอยู่ที่นี่มานานหลายสิบปีและพูดภาษารัสเซียเป็นภาษาหลักมายาวนานแล้วต่างกังวลใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีทรอฟิโมฟส์ ระบุว่าหากผู้ที่ถือหนังสือเดินทางรัสเซียที่มีอายุต่ำกว่า 75 ปี ไม่ผ่านการทดสอบ จะต้องยื่นเหตุผลในการย้ายออกจากประเทศภายในสิ้นปีนี้ หรือถ้าหากไม่ยอมย้ายออกไปก็จะต้องถูกขับไล่ออกไป โดยเขาพูดถึงความแตกต่างระหว่างอารมณ์ความรู้สึกกับกฎหมายข้อบังคับที่ต้องแยกออกจากกัน และระบุว่าหากคน ๆ นั้นไปอาศัยอยู่ต่างถิ่นที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตนเอง แน่นอนว่าก็จะมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิของคนนั้นจากประเทศบ้านเกิด แต่หากอยากได้ความคุ้มครองจากประเทศต่างถิ่นที่ตนอาศัยอยู่ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคนเข้าเมือง หรือ Immigration law
“ถ้าเราแยกเรื่องความรู้สึกกับเรื่องกฎกหมายออกจากกัน เราจะเข้าใจเลยว่าถ้าคุณเป็นพลเมืองของประเทศหนึ่ง แต่ไปอยู่ต่างถิ่น คุณก็จะได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายและสังคมจากประเทศของคุณ แต่ถ้าคุณอยากได้รับการคุ้มครองเฉกเช่นเดียวกันในประเทศต่างถิ่นที่คุณอาศัยอยู่ คุณก็ต้องปฏิบัติไปตามกฎระเบียบคนเข้าเมืองของประเทศนั้น ๆ”ทรอฟิโมฟส์กล่าว
กันยายนปีที่แล้ว รัฐบาลัตเวียเห็นชอบในการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองใหม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่เป็นพลเมืองลัตเวียและไม่ได้เป็นหากมีความประสงค์จะเป็นพลเมืองของประเทศอื่น แต่ต้องการอาศัยอยู่ในลัตเวียต่อไป จะต้องผ่านการทดสอบวัดระดับภาษาของทางการ และต้องมีเอกสารรับรองจากศูนย์การศึกษาแห่งชาติของลัตเวียระดับ A2 รวมทั้งยังต้องแสดงหลักฐานการเงินว่ามีเพียงพออาศัยอยู่ในประเทศได้ ซึ่งหากใครไม่ผ่าน สิทธิการพำนักถาวรจะถูกยกเลิกและถูกเปลี่ยนสถานะเป็นสิทธิพำนักชั่วคราวที่มีอายุ 1 ปีแทนโดยทันที โดยกฎหมายคนเข้าเมืองใหม่นี้จะอนุญาตให้อยู่ในลัตเวียได้ถึง 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะรวมถึงคนที่เคยได้รับสถานะพลเมืองลัตเวียแต่โอนย้ายไปอยู่ประเทศอื่น เช่น รัสเซีย และเบลารุส ที่ตอนนี้กลับมาอาศัยอยู่ในลัตเวียแล้ว ยกเว้น คนที่เคยเป็นนักเรียน นักวิจัย ที่ต้องการจะอยู่ในลัตเวียต่อไปหลังจากจบการศึกษาหรือโครงงานวิจัย เนื่องจากยึดตามข้อบังคับของรัฐสภายุโรปและคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป รวมทั้งนิติบุคคลที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจการลงทุนและการพัฒนา ในขณะที่บุคคลที่เป็นฝ่ายบริหารในบริษัทสตาร์ทอัปต่าง ๆ สถานะพำนักจะเป็นชั่วคราวตามระยะเวลาของบริษัทที่ทำสัญญามาคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง