จากกรณีภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว กังวลว่าหาก “เจ๋ง ดอกจิก” ถูกสั่งปลดจากคณะทำงานฯ เขตตรวจราชการที่ 11 ตั้งแต่ ธ.ค.2566 จะไม่เข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์แล้วทำให้ข้อหาอ่อนลง
ล่าสุดพีพีทีวี ไปพูดคุยกับ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บอกว่า ต้องไปดูคำสั่งปลดว่ามีอยู่ในระบบราชการหรือไม่ ซึ่งคณะทำงานระดับรองนายกฯ ไม่น่าจะออกคำสั่งลอยๆ ทุกอย่างต้องมีการลงระบบไว้ ตรวจสอบได้ว่าเอกสารมีในระบบจริงหรือไม่ หรือทำขึ้นเมื่อไหร่
ขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์เรียกเงิน 100 ล้าน?
หวั่นการเมืองช่วยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! ส่งผลให้ “แก๊งตบทรัพย์” รับโทษน้อยลง
ส่วนกรณีที่มีภาพนายยศวริศไปร่วมประชุม วันที่ 26 ม.ค. 2567 ป้ายชื่อบนโต๊ะยังระบุตำแหน่งเป็นคณะทำงานอยู่ จะถือว่ายังทำหน้าที่อยู่ได้หรือไม่ นายนิวัติไชย บอกว่า ต้องยึดคำสั่งปลดเป็นสำคัญ เพราะเป็นหลักฐานเอกสาร แต่ก็อาจถูกหักล้างด้วยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานแวดล้อม ส่วนที่มีภาพปรากฏว่ายังเข้าร่วมประชุมก็ต้องตรวจสอบว่าเข้าร่วมในฐานะอะไร โดยการตรวจสอบต่อขึ้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวนของ บก.ปปป. ว่าจะตรวจสอบต่ออย่างไรเนื่องจาก ป.ป.ช. ส่งเรื่องไปแล้ว
ส่วนหากมีคำสั่งปลดนายยศวริศจริง ก่อนวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ที่มีการเข้าไปที่กรมการข้าวและต่อรองเงินกับภรรยาอธิบดีฯ จะทำให้พ้นข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ นายนิวัติไชย บอกว่า หากพฤติกรรมเกิดขึ้นหลังจากพ้นตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว ก็จะไม่เข้าข่ายความผิดนี้ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่จะเข้าข่ายเพียง “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์” ซึ่งมีโทษจำคุกเช่นกัน แต่เบากว่ามาก อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าพฤติกรรมการเรียกรับผลประโยชน์ เพิ่งเกิดขึ้นวันที่ 21 ธ.ค.2566 หรือมีพฤติกรรมมาก่อนหน้านั้น
ส่วนกรณีที่มีเอกสารแต่งตั้งนายยศวริศ เป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลฯ สภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2566 จะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วยอีกตำแหน่งหรือไม่ นายนิวัติไชย บอกว่า ต้องดูหลายส่วน เพราะตำแหน่งที่ปรึกษา มีหลายรูปแบบ ทั้งเข้าข่ายและไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ต้องได้รับมอบหมายให้มีอำนาจทางปกครอง คนที่แต่งตั้งมีอำนาจในการแต่งตั้ง และการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบ โดยตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งไม่จำเป็นต้องได้รับค่าตอบแทน ถ้าการแต่งตั้งถูกต้องแล้วมีอำนาจหน้าที่ ก็นับเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่างไรก็ตาม แม้จะตรวจสอบได้ว่านายยศวริศเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่จากตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ประธาน กมธ. ชุดนี้ ก็ไม่มีผลกับข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐฯ เรียกรับผลประโยชน์ ที่ถูกแจ้งก่อนหน้านี้ หากไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ “ที่ปรึกษาประธาน กมธ.” ไปเรียกรับผลประโยชน์
ส่วนกรณีของ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของนายพีระพันธุ์เช่นกัน แต่แต่งตั้งเช้าวันที่ 26 ม.ค. 2567 ก่อนจะมีการสั่งปลดหลังเกิดเรื่อง จะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ด้วยหรือไม่ เพราะจากข้อมูลมีการพูดคุยเจรจาต่อรองกันก่อนหน้าได้รับตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.บอกว่า ก็ต้องไปดูข้อมูลว่า ในวันที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งจนกระทั่งตำรวจเปิดปฏิบัติการ น.ส.พิมณัฏฐา มีพฤติกรรมร่วมอยู่ในขบวนการด้วยหรือไม่ เพราะหากการเรียกรับผลประโยชน์เกิดขึ้นก่อนได้รับแต่งตั้ง ก็จะไม่เข้าข่ายความผิดนี้ แต่จะเข้าข้ออื่นๆ
ผลบอลเอเชียน คัพ 2023 ออสเตรเลีย-ทาจิกิสถาน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
สยองกลางโรงเรียนย่านพัฒนาการ นักเรียนแทงเพื่อนหลังเลิกแถวหน้าเสาธง เสียชีวิต 1 ราย
มารู้จัก "เจ๋ง ดอกจิก" ตัวละครเอี่ยว "ศรีสุวรรณ" ขู่เรียกรับสินบน